เว็บบอร์ดบทความเรื่องสุขภาพเอนไซม์มีสรรพคุณมากมาย
ผู้เขียน : ฮาอีชะ วงแหวน   หัวข้อ : เอนไซม์มีสรรพคุณมากมายอ่าน 885 / ความคิดเห็น 0
รูปประจำตัว
ฮาอีชะ วงแหวน
  • 1 กระทู้ที่เริ่มไว้
  • 24 เมษายน 2555
รูปไอคอน
หัวข้อ : เอนไซม์มีสรรพคุณมากมาย
3/5/2555 22:26:00

เอนไซม์/Enzyme

 


                                         

เอนม์ไซม์( ENZYME )

เอนไซม์ คืออะไร? What is Enzyme?
เอนไซม์ คือ โปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมีในสิ่งมีชีวิต โดยเอนไซม์จะเข้าไปจับกับสารตั้งต้นแบบจำเพาะเจาะจงเสมือนกับแม่กุญแจที่ใช้ได้กับลูกกุญแจเพียงแบบเดียวเท่านั้น และเอนไซม์จะเปลี่ยนสารตั้งต้นให้เป็นผลิตภัณฑ์ได้อย่างรวดเร็วขึ้นกว่าที่จะเกิดเองตามธรรมชาติโดยปราศจากเอนไซม์ ทำให้สิ่งมีชีวิตสามารถใช้ประโยชน์จากปฏิกิริยาเคมีได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพและทำให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้
เอนไซม์ แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
1. เอนไซม์ที่ทำหน้าที่ย่อยอาหาร (Digestive Enzyme) เช่น เอนไซม์อะไมเลส มีหน้าที่ย่อยแป้งหรือคาร์โบไฮเดรตให้เป็นน้ำตาล เป็นต้น
2. เอนไซม์ที่ทำหน้าที่ในกระบวนการเมตาบอลิซึม (Metabolism Enzyme) ซึ่งเป็นกระบวนการที่ร่างกายใช้เผาผลาญอาหารให้ได้พลังงาน รวมถึงการเสริมสร้างร่างกายและป้องกันโรค เอนไซม์ประเภทนี้เรียกว่า “เมตาบอลิกเอนไซม์” (Metabolic Enzyme)
เอนไซม์เป็นเสมือนแรงงานของร่างกายที่ทำงานในระบบเมตา บอลิซึม เอนไซม์ทำงานเพื่อให้พลังงานแก่ร่างกาย ให้สามารถรักษาสุขภาพของร่างกายให้แข็งแรงและรักษาโรคได้อย่างรวดเร็ว หากร่างกายปราศจากเอนไซม์ ร่างกายก็จะเป็นเพียงเสมือนเคมีกองโตที่ไร้ชีวิต เอนไซม์เป็นสารที่ทำให้เกิดสิ่งมีชีวิตขึ้นได้


       เอนไซม์ มีความจำเป็นต่อทุกปฏิกิริยาเคมีที่เกิดขึ้นในร่างกายมนุษย์ เกลือแร่ วิตามิน และฮอร์โมน จะไม่สามารถทำงานได้หากปราศจากเอนไซม์ ร่างกายมนุษย์ อวัยวะ เนื้อเยื่อ และเซลล์ถูกควบคุมโดยการทำงานของเมตาบอลิกเอนไซม์ เอนไซม์เปลี่ยนอาหารที่เรารับประทานเข้าไปให้เป็นโครงสร้างทางเคมีที่สามารถ ผ่านเยื่อหุ้มเซลล์เข้าไปในระบบย่อยอาหาร และเข้าสู่กระแสเลือดได้
นอกจากนี้เอนไซม์ยังช่วยเปลี่ยนอาหารให้เป็นกล้ามเนื้อ กระดูก เส้นประสาท และต่อมต่าง ๆ เอนไซม์ยังช่วยไต ปอด ตับ ผิวหนัง และลำไส้ ในการขับของเสีย และอีกมากมาย
อาจจะกล่าวได้ว่า เอนไซม์เกี่ยวข้องกับเกือบทุกระบบใน ร่างกาย การหายใจ การนอนหลับ การรับประทานอาหาร การทำงาน และกระบวนการคิดของร่างกายก็ล้วนแล้วแต่เกี่ยวข้องกับเอนไซม์ทั้งสิ้น
เอนไซม์ สามารถผลิตได้ในร่างกายของมนุษย์ โดยตับอ่อน ซึ่งเป็นอวัยวะที่ผลิตเอนไซม์ที่ทำหน้าที่ย่อยอาหารมากที่สุด แต่ถึงแม้เอนไซม์จะถูกผลิตได้โดยตับอ่อน แต่เราควรคำนึงถึงเอนไซม์ที่มีอยู่ในอาหารเพื่อช่วยในกระบวนการย่อยอาหารร่วมกับเอนไซม์ใน ร่างกายด้วย เพราะมนุษย์ทุกคนมีความสามารถในการผลิตและใช้เอนไซม์อย่างจำกัด เสมือนกับพลังงานที่สะสมอยู่ในแบตตารี่ หากใช้เอนไซม์สิ้นเปลืองอาจนำไปสู่ภาวะพร่องเอนไซม์ ทำให้เกิดการเจ็บป่วยของสภาพร่างกายได้ อีกทั้งความสามารถในการผลิตเอนไซม์ของร่างกายจะลดลงเมื่อเรามีอายุมากขึ้น จากการศึกษาพบว่าการทำงานของเอนไซม์อะ ไมเลสที่ย่อยแป้งหรือคาร์โบไฮเดรตมีประสิทธิภาพลดลงเมื่อมีอายุมากขึ้น เนื่องจากเซลล์ของตับอ่อนอ่อนแอ และเสื่อมสภาพลง จึงเป็นเหตุผลว่า ผู้สูงอายุไม่ควรรับประทานคาร์โบไฮเดรตมากในแต่ละมื้อ
เมื่อชีวิตคือการทำงานร่วมกันของเอนไซม์อย่างมีระบบ เมื่อเอนไซม์เสื่อมสภาพลงอย่างรวดเร็ว ก็หมายถึงความชราเกิดขึ้นกับร่างกายของเรา ก่อให้เกิดปฏิกิริยาต่าง ๆ ที่สำคัญต่อการมีชีวิต ส่งผลให้เกิดอาการเจ็บป่วย จนถึงร่างกายทรุดโทรมและตายได้ ทำให้เห็นได้ว่า เอนไซม์ มีบทบาทสำคัญต่อสุขภาพและร่างกายอย่างไร การเสริมเอนไซม์จากอาหารเพื่อช่วยยืดอายุของเซลล์ และลดการทำงานของตับอ่อนในการผลิตเอนไซม์ จึงเสมือนเป็นอีกทางเลือกในการดูแลสุขภาพของคุณ


แหล่งผลิตเอนไซม์
        เอนไซม์ที่ใช้ในขบวนการเผาผลาญพลังงาน (Metabolize Enzyme) ทั้งหมดจะสร้างขึ้นในร่างกาย ซึ่งมีความสำคัญกับทุกขั้นตอนของการย่อยอาหารอายุที่มากขึ้นและความเครียดมี ผลให้การสร้างเอนไซม์เหล่านี้ลดลง ส่วนเอนไซม์จากอาหาร (Food Enzyme) เช่น ผัก ผลไม้ จะคงความสามารถในการย่อยอาหารก็ต่อเมื่อยังไม่ผ่านการปรุงให้สุกเท่านั้น ที่มาอันมหัศจรรย์อีกแห่งของเอนไซม์ก็คือ เอนไซม์เสริมเพื่อช่วยย่อยอาหาร เอนไซม์เหล่านี้สกัดจากเอนไซม์ในพืช เนื่องจากการผลิตเอนไซม์ไม่สามารถทำเหมือนกับการสังเคราะห์วิตามินและแร่ ธาตุ เราจึงต้องปลูกพืชแล้วผ่านนขบวนการสกัดในห้องปฏิบัติการ เอนไซม์อื่นๆ ที่บริโภคได้เป็นเอนไซม์จากสัตว์

         เนื่องจากเอนไซม์จากพืชช่วยระบบย่อยอาหารได้ครบถ้วน และยังช่วยเสริมการทำงานของระบบต่อมไร้ท่อ จึงทำให้เอนไซม์กลุ่มนี้มีประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่าเอนไซม์เสริมจากแหล่ง อื่นๆ

ทำไมเราจึงต้องการเอนไซม์

       80 เปอร์เซ็นต์ของพลังงานในร่างกายถูกใช้ไปในขบวนการย่อยอาหารหากคุณอ่อนเพลีย เครียด อยู่ในสภาวะอากาศที่ร้อนหรือเย็นจัด ตั้งครรภ์ เดินทางโดยเครื่องบินบ่อยๆ คุณจะต้องการเอนไซม์เสริมเป็นจำนวนมาก เนื่องจากกระบวนการทำงานทั้งหมดของร่างกายต้องอาศัยเอนไซม์ เราจึงต้องเสริมเอนไซม์ให้ร่างกาย อายุที่มากขึ้นเป็นสาเหตุของการผลิตเอนไซม์ที่ลดลงผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ กล่าวว่า โรคต่างๆ เกิดขึ้นจากการขาดแคลนหรือความไม่สมดุลของเอนไซม์ ดังนั้นเราทุกคนจึงไม่สามารถขาดเอนไซม์ได้


ชีวิตมีพลังด้วยธรรมชาติ

หน้าที่ของเอนไซม์ในร่างกายมนุษย์
       เอนไซม์ที่มหัศจรรย์เหล่านี้ทำหน้าที่สำคัญ 2 อย่าง คือ ย่อยสลายอาหารให้เล็กลงพอที่จะผ่านเซลล์ผนังลำไส้ แล้วสารอาหารเหล่านี้ก็เข้าสู่กระแสเลือดต่อไป การย่อยอาหารเป็นหนาที่สำคัญอย่างยิ่งของร่างกาย เมื่อเรารับประทานอาหาร เอนไซม์ย่อยอาหารจะถูกดึงมาจากทุกระบบของร่างกายในทันทีเพื่อทำการย่อยอาหาร แต่ทว่าเอนไซม์ย่อยอาหารเหล่านี้ก็ยังมีหน้าที่อื่นๆอีกในการที่จะซ่อม แซม ควบคุม และกระตุ้นการทำงานของระบบอื่นๆของร่างกายด้วย แต่ระบบเหล่านี้ จำเป็นที่จะต้องหยุดทำงานชั่วคราวเพื่อส่งเอนไซม์ไปให้ระบบย่อยอาหาร วิธีแก้อย่างหนึ่งคือ รับประทานเฉพาะอาหารที่ไม่ผ่านการปรุงให้สุก อาหารก็จะมีเอนไซม์เพียงพอที่จะย่อยตัวเองอยู่แล้ว อีกวิธีคือ รับประทานเอนไซม์เสริมสกัดจากพืช บรรจุในแคปซูลหรือเอนไซม์ผง
อย่าลืมว่าการย่อยคาร์โบไฮเดรต ที่ไม่สมบูรณ์จะเกิดการหมักในลำไส้ หากเป็นอาหารกลุ่มไขมัน พวกผลิตภัณฑ์จากนม น้ำมันต่างๆ ของทอด จะเหม็นหืน และถ้าเป็นกลุ่มโปรตีน เช่นเนื้อสัตว์ ไก่ ปลา ถั่ว ต่างๆ ก็จะเน่า จึงไม่น่าแปลกใจเลยถ้าคนส่วนใหญ่ในสังคมเรานี้จะมีปัญหาเรื่อง ท้องผูก แก๊สในกระเพาะอาหาร ท้องอืด ท้องเฟ้อ ลมหายใจเหม็น
อีกบทบาทหนึ่งของเอนไซม์คือ รักษาระบบการเผาผลาญพลังงานในร่างกายให้มีประสิทธิภาพสูงสุด อันได้แก่ สลายไขมัน ลำเลียงอาหารเข้าสู่เซลล์ แจกจ่ายพลังงานไปยังเซลล์ที่ต้องการ ทุกกลไกของร่างกายตั้งแต่การสร้างกล้ามเนื้อกระดุก ต่อมต่างๆ และเส้นประสาท ไปจนถึงการกำจัดพิษออกจากร่างกาย ล้วนต้องอาศัยการทำงานของเอนไซม์ทั้งสิ้น จึงอาจกล่าวได้ว่าเอนไซม์เป็นอุปกรณ์ช่วยชีวิตจากธรรมชาติ


จะทราบได้อย่างไรว่าเราขาดเอนไซม์
        อาการที่เด่นชัดของการย่อยอาหารที่ไม่ดี คือ การเรอ มีแก๊ส จุกเสียด วิงเวียน ท้องผูก รู้สึกเหนื่อยหลังทานอาหาร แพ้อาหาร อีกวิธีคือสังเกตว่าคุณรับประทานอาหารประเภทใดมากที่สุดรวมถึงกาเฟอีน ช็อกโกแลต น้ำตาลฟอกขาว อาหารปรุงสุก อาหารแปรรูป

        เอนไซม์ มีความจำเป็นต่อการย่อยอาหาร นำวิตามิน เกลือแร่ และกรดอะมิโนที่มีค่าเข้าสู่ร่างกาย ช่วยทำให้เรามีชีวิตอยู่ได้และมีสุขภาพที่ดี เอนไซม์เป็นตัวเร่งปฎิกิริยา หรือสารที่ทำให้เกิดปฏิกิริยาต่างๆขึ้นภายในร่างกาย โดยที่ตัวมันเองไม่ถูกเปลี่ยนแปลงหรือทำลายโดยกระบวนการที่เกิดขึ้น แต่เอนไซม์จะถูกทำลายได้ด้วยความร้อน แหล่งของเอนไชม์ที่ดีที่สุด คือ ผลไม้ ผักสด ไข่ เนื้อสัตว์ และปลา ที่ยังไม่ผ่านกระบวนการทำอาหารหรือแปรรูป เอนไซม์แต่ละชนิด จะทำงานกับอาหารแต่ละประเภท โดยไม่สามารถทำงานแทนกันได้ ภาวะที่ร่างกายขาดเอนไซม์ หรือ ไม่มีเอนไซม์แม้เพียงตัวใดตัวหนึ่ง อาจจะส่งผลถึงขั้นล้มป่วยเลยทีเดียว เอนไซม์ในร่างกายของเรามีประมาณเกือบ 3,000 ชนิด

เอนไซม์แบ่งเป็น 3 กลุ่ม

1.ย่อยแป้งและน้ำตาล
2.ย่อยโปรตีน
3.ย่อยไขมัน

         หากร่างกายขาดเอนไซม์แล้ว ร่างกายจะขาดตัวนำพา เช่น เรารับประทานโปรตีนเข้าไปในร่างกาย เอนไซม์จะทำหน้าที่ย่อยโปรตีนในอาหารที่เรารับประทานเข้าไปนั้น ตัดแบ่งเส้นสายโปรตีน ให้เป็นกรดอะมิโนที่ร่างกายนำไปใช้ได้ หากปราศจากเอนไซม์ร่างกายไม่สามารถนำโปรตีน มาใช้สร้างผิวพรรณที่มีสุขภาพดี โครงสร้างกระดูกที่แข็งแรง เม็ดเลือดที่คอยหล่อเลี้ยง และกล้ามเนื้อที่แข็งแรง เอนไซม์ช่วยย่อยนม บางคนอาจจะดื่มนมแล้วท้องอืด ไม่ย่อย คือขาดเอนไซม์ตัวนี้ เรียกว่าเอนไซม์ “เรนนิน” เป็นเอนไซม์ย่อยอาหาร ที่ช่วยให้น้ำนมที่ดื่มเข้าไปเกิดการแข็งตัว ช่วยเปลี่ยน เคซีน จากนมที่เป็นรูปให้ร่างกายนำไปใช้ได้ เอนไซม์ช่วยให้แร่ธาตุที่มีประโยชน์จาก เช่น แคลเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม และเหล็ก ถูกร่างกายนำไปใช้ในการสร้างสมดุล เกลือแร่และน้ำเพิ่มความแข็งแรงของระบบประสาท และเสริความแข็งแกร่งของกระดูกและฟัน

        เอนไซม์ช่วยตัดแบ่งไขมัน ซึ่งไขมันที่ได้จะถูกร่างกายนำไปใช้บำรุงเซลล์ผิวหนัง ปกป้องร่างกายจากภาวะฟกช้ำ ดำเขียว ยับยั้งการติดเชื้อไวรัส และภาวะภูมิแพ้ต่างๆ ชื่อว่า เอนไซม์ ไลเปส

       โดยสรุปก็คือ ร่งกายของเราขาดเอนไซม์ไม่ได้ หากเราขาดเอนไซม์ จะทำให้เราถึงแก่ชีวิตเลยทีเดียว ฉะนั้นเราจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องเติมเต็มเอนไซม์แก่ชีวิตเรา แม้ว่าเราจะสามารถผลิตเอนไซม์ได้เองตามธรรมชาติก็ตาม แต่อาหารที่เราบริโภคเข้าไปต่างๆ เจือปนด้วยสารพิษ จากผัก จากเนื้อสัตว์ กระทั่งการหายใจเข้า-ออก คืออากาศที่มีพิษ เราใช้เอนไซม์จากร่งกายอย่างฟุ่มเฟือย เมื่อขาดแคลน เอนไซม์ ก็เกิดการป่วยขึ้น วันนี้เรามีเอนไซม์พร้อมวิตามิน เกลือแร่ กรดอะมิโน ที่ร่างกายต้องการ ในรูปของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร รับประทานง่าย บรรจุในแคปซูล มาเติมเต็มเอนไซม์ให้แก่ชีวิต กันดีกว่า...

 

ขั้นตอนการทำน้ำเอนไซม์

การทำหัวเชื้อน้ำเอนไซม์ (Enzyme) น้ำผลไม้เข้มข้นใช้ดื่มเพื่อสุขภาพทำหัวเชื้อ       

- นำผลไม้ 3 กก. +  น้ำผึ้ง 1 กก. +  น้ำ 10 ลิตร 

หมักไว้เป็นเวลา 3 เดือน – 1 ปี 


ขึ้นไปจะได้หัวน้ำผลไม้เข้มข้นที่สกัดด้วยวิธีการทางธรรมชาติ ให้แยกเอาน้ำออกมา
ส่วนกากผลไม้ที่เหลือให้ผสมน้ำผึ้ง1 กก. + น้ำ 10 ลิตรหมักทิ้งไว้ 2 เดือนขึ้นไป จนกว่ากากผลไม้ที่เหลือจะย่อยสลายหมดสามารถทำซ้ำอีก 3-4 ครั้งก็จะได้หัวน้ำผลไม้เข้มข้นที่สกัดด้วยวิธีการทางธรรมชาติเก็บไว้เพิ่มอีก
เราจะพบว่าในช่วงอายุของการหมักหรือการขยายก็ดี ช่วงเวลาภายใน  3 เดือนแรก – 1 ปี จะมีจุลินทรีย์ต่างๆ มากมายลงมาทำหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพเรียกว่าหัวเชื้อน้ำผลไม้เข้มข้นที่สกัดด้วยวิธีการทางธรรมชาติ หากเรานำผลิตผลช่วงนี้ไปใช้ดื่มกิน จะเกิดผลข้างเคียง ซึ่งไม่เป็นที่นิยมยอมรับ              
แต่เมื่อเราได้หัวเชื้อดังกล่าวแล้ว ซึ่งอายุต้องมากกว่า 1 ปีขึ้นไปจึงจะมีประสิทธิภาพ เราสามารถที่จะนำหัวเชื้อไปขยาย ด้วยกระบวนการหมักในภาชนะพลาสติกที่ปิดจำกัดอากาศ ในขั้นตอนนี้จะไม่มีเชื้อจุลินทรีย์ต่างๆที่เป็นอัตตรายเหลืออยู่เลย เพราะสัดส่วนดังกล่าวเป็นสัดส่วนที่ปลอดเชื้อ
ดังนั้นท่านจะพบว่าในกระบวนการดังกล่าวเราไม่มีจุลินทรีย์ที่เป็นอันตรายต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม แต่เป็นผลผลิตของจุลินทรีย์ ซึ่งให้สารอาหารต่างๆ ในรูปของ โปรตีน( กรดอะมิโน), ไวตามิน, เกลือแร่, พลังงาน ฯ  
โดยใช้หัวเชื้อน้ำผลไม้เข้มข้นที่สกัดด้วยวิธีการทางธรรมชาติ 4 แก้ว +น้ำผึ้ง 1 กก. + น้ำ 10 ส่วน  หมักไว้เป็นเวลานาน  7 วันขึ้นไป ก็จะได้น้ำเอนไซม์พร้อมดื่มที่ช่วยให้การย่อยอาหารและการขับถ่ายดีขึ้น, ทำให้เซลในร่างกายได้รับสารอาหารอย่างสมดุล , สลายสารพิษและสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกาย, ลดการถูกทำลายในเซล, คงความเป็นหนุ่มสาวทำให้แก่ช้า,อุดมด้วยโปรตีน ไวตามิน และเกลือแร่

หรือ นำหัวเชื้อน้ำผลไม้เข้มข้น ที่อายุนาน 10 ปี มา 1 ส่วน + น้ำผึ้ง 1 ส่วน +  น้ำ 10 ส่วน หมักไว้นาน 6 เดือน จะนำไปดื่ม หรือ นำไปเป็นหัวเชื้อ ขยายต่อไปอีก ด้วยอัตราส่วน หัวเชื้อขยาย 1 ลิตร  + น้ำผึ้ง 1 กิโลกรัม + น้ำ 5 ลิตร นาน 1 ปี จะได้น้ำเอนไซม์พร้อมดื่ม ที่ช่วยในการฟื้นฟูร่างกาย ย่อยอาหาร สลายสารพิษของตกค้างในเลือด ลดไขมัน อย่างได้ผลดี

 


By : Admin



สร้างเว็บแบบมืออาชีพได้อย่างง่ายๆ กับ เว็บไซต์สำเร็จรูปของ " สยามทูเว็บ " www.siam2web.com


แสดงความคิดเห็น หัวข้อ : เอนไซม์มีสรรพคุณมากมาย
* ชื่อ :
เช่น John
ไอคอน :
ความคิดเห็น :
อีโมชั่น :




ไฟล์ : แนบไฟล์ แนบไฟล์
Captcha :
captcha
  Enter Characters
แสดงความคิดเห็น

Advertising Zone    Close
 
Online:  1
Visits:  86,935
Today:  27
PageView/Month:  252

ยังไม่ได้ลงทะเบียน

เว็บไซต์นี้ยังไม่ได้ลงทะเบียนยืนยันการเป็นเจ้าของเว็บไซต์กับ Siam2Web.com